ENG I TH
Mulberry tree bark
The branches of the mulberry shrubs are harvested in the autumn, and the innermost layer of bark (white bark) is stripped from the timber and boiled in a mixture of water and soda ash. The strips are then beaten by hand until they have been well separated.
The diffuser is formed by hand sewing each of the prepared clusters of fiber to a cotton grid, which has been fastened to the base structure.
The colour of the material is a soft white that yellows a little with age. To clean diffusers in this material, we recommend that they be dusted or lightly vacuumed.
Mulberry tree bark
The branches of the mulberry shrubs are harvested in the autumn, and the innermost layer of bark (white bark) is stripped from the timber and boiled in a mixture of water and soda ash. The strips are then beaten by hand until they have been well separated.
The diffuser is formed by hand sewing each of the prepared clusters of fiber to a cotton grid, which has been fastened to the base structure.
The colour of the material is a soft white that yellows a little with age. To clean diffusers in this material, we recommend that they be dusted or lightly vacuumed.
Mulberry tree bark
The branches of the mulberry shrubs are harvested in the autumn, and the innermost layer of bark (white bark) is stripped from the timber and boiled in a mixture of water and soda ash. The strips are then beaten by hand until they have been well separated.
The diffuser is formed by hand sewing each of the prepared clusters of fiber to a cotton grid, which has been fastened to the base structure.
The colour of the material is a soft white that yellows a little with age. To clean diffusers in this material, we recommend that they be dusted or lightly vacuumed.
Mulberry tree bark
The branches of the mulberry shrubs are harvested in the autumn, and the innermost layer of bark (white bark) is stripped from the timber and boiled in a mixture of water and soda ash. The strips are then beaten by hand until they have been well separated.
The diffuser is formed by hand sewing each of the prepared clusters of fiber to a cotton grid, which has been fastened to the base structure.
The colour of the material is a soft white that yellows a little with age. To clean diffusers in this material, we recommend that they be dusted or lightly vacuumed.
Mulberry tree bark
The branches of the mulberry shrubs are harvested in the autumn, and the innermost layer of bark (white bark) is stripped from the timber and boiled in a mixture of water and soda ash. The strips are then beaten by hand until they have been well separated.
The diffuser is formed by hand sewing each of the prepared clusters of fiber to a cotton grid, which has been fastened to the base structure.
The colour of the material is a soft white that yellows a little with age. To clean diffusers in this material, we recommend that they be dusted or lightly vacuumed.
Elegance, Luminosity and Sustainability in Sculptural Handcrafted Lighting
แองโก กับการสร้างแชนเดอเรีย 21 เมตร
ที่เอ็มโพเรียม ปี 2015
จุดเริ่มต้นของงานดีไซน์โคมไฟแฮนด์เมดแบบแชนเดอเรีย หรือโคมไฟระย้า ในสไตล์ของแองโก คือการให้ความสำคัญกับแสง และความตั้งใจทำงานฝีมือในแต่ละดีไซน์เพื่อส่งต่อความรู้สึกพิเศษที่คุณสัมผัสได้ จากจุดเริ่มต้นนี้ได้พัฒนาดีไซน์สู่ซีรี่ส์ต่างๆ ซึ่งเป็นการนำฟอร์มแปลกใหม่มาใช้กับวัสดุที่คิดค้นขึ้น ทุกดีไซน์จึงมีความพิเศษเฉพาะตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแองโก
Ango Custom เป็นส่วนหนึ่งของทีมงานที่พร้อมรองรับการพัฒนาแบบและติดตั้งด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะ ในการสร้างสรรค์งานดีไซน์เพื่อสร้างความพิเศษให้กับสเปซนั้นๆ ดั่งเช่นการทำงานในช่วงปี 2014 ที่ผ่านมา ที่แองโกได้ทำงานร่วมกับ J + H Boiffils Architects โดยเราสร้างสรรค์และติดตั้งแชนเดอเลียร์ 2 ใน 3 ของสเปซขนาดใหญ่ในเอ็มโพเรียมได้เสร็จสมบูรณ์
แชนเดอเรีย ที่โถงกลางห้างเอ็มโพเรียม
CUSTOM LIGHTING AT MAIN VOID SPACE
Concept : Branch of Flowers Chandelier
แชนเดอเรียที่โถงกลางสูง 21 เมตร ถูกออกแบบให้เป็นโคมไฟระย้าที่เต็มไปด้วย “ดอกลิลลี่สีทอง” ซึ่งแต่ละชิ้นมีจุดเชื่อมต่อด้วยฝีมืออันประณีตกว่า 400 จุด และได้กลายเป็นทางผ่านของแสงสำหรับโคมไฟ
หลังจากผ่านการพัฒนาแบบและทดสอบมานานหลายเดือน ดอกลิลลี่กว่า 500 ดอกที่ถึงเวลาต้องเริ่มลงมือทำ ช่างฝีมือของแองโกใช้เวลานานหลายพันชั่วโมง ในการเชื่อมจุดแต่ละจุดในดอกไม้อย่างละเอียดอ่อน เพื่อให้ดอกไม้แต่ละดอก ส่งต่อความอ่อนโยนอันงดงามได้อย่างที่ตั้งใจ ดอกไม้ที่ได้แต่ละชิ้นจะถูกนำมาเคลือบ ทองและนิกเกิล ก่อนจะนำมาประกอบกับโครงสร้างหลัก
โคมไฟเพดาน ดีไซน์พิเศษ ที่บริเวณทางเขาหลัก
CUSTOM LIGHTING AT MAIN ENTRANCE SPACE
Concept : Bejwelled wings
โคมไฟเพดาน ในส่วนบริเวณทางเข้าห้างเอ็มโพเรียม ระหว่าง Cartier และ Louis Vuitton สเปซตรงนี้ โอ่โถงด้วยโคมไฟโค้งบาง เล่นระดับ
ในคอนเซปต์ “Bejwelled wings” ที่เล่นรับกับแสง ทั้งที่ซ่อนอยู่ในเส้นบางๆ ของโคมไฟ และแสงที่สะท้อนจากใบไม้สีทองทางด้านบน
ในส่วนนี้ก็เช่นกัน การพัฒนาดีไซน์และขั้นตอนการทดสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องใช้ทักษะและความแม่นยำในการทำฟอร์มที่แตกต่างถึง
6 ฟอร์ม เพื่อนำมาไขว่ และสร้างเป็นเอาท์ไลน์ในเฟรม ซึ่งช่างฝีมือของแองโกต้องเชื่อมจุดหลายพันจุดในแต่ละเฟรม เพื่อหักเหแสงที่มากระทบ ในขณะเดียวกันจุดเหล่านี้ได้ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของแสงไปด้วย
แชนเดอเรีย ชิ้นมาสเตอร์พีซ คือการร่วมงานกับสถาปนิก
ขอขอบคุณ J+H Boiffils โดยเฉพาะ Henri Boiffils, Jacqueline Boiffils และ Basile Boiffils ที่ทำงานร่วมกับแองโกและร่วมกันสร้าง
ผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ให้สำเร็จลุล่วงอย่างสวยงามและเราขอขอบคุณช่างฝีมือของแองโกทุกคน สำหรับการทุ่มเทและอดทน ในการสร้างสรรค์
งานทุกชิ้นของแองโกให้เป็นโคมไฟชิ้นคลาสสิกในเอ็มโพเรียมครั้งนี้